ไมโครซอฟท์ยังคงมุ่งมั่นสรรสร้างแพลตฟอร์มทรงประสิทธิภาพสำหรับนักพัฒนา เพื่อให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุด
บริษัท ไมโครซอฟท์ ประกาศเปิดตัวบริการ Microsoft Azure อัพเดทใหม่หลายรายการ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมอบขีดความสามารถขั้นสูงตั้งแต่ AI, Mixed Reality (MR), IoT ไปจนถึงบล็อกเชนให้แก่เหล่านักพัฒนา ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะนำเสนอความก้าวหน้าเหล่านี้และอีกมากมายในด้านไฮบริดคลาวด์และเอดจ์คอมพิวติ้ง ที่งานประชุม Microsoft Build เพื่อเสริมพลังการสรรสร้างให้แก่เหล่านักพัฒนา
สกอตต์ กูธีร์ รองประธานบริหาร Microsoft Cloud + AI Group กล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อสำหรับการเป็นนักพัฒนา เพราะตอนนี้ทักษะความสามารถและบทบาทของนักพัฒนากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การรวมเทคโนโลยี AI และ MR เข้าไว้ในแอป ไปจนถึงการนำเอาบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาธุรกิจการค้า วันนี้เราขอแนะนำบริการ Azure สุดล้ำสมัยเพื่อให้เหล่านักพัฒนาได้นำไปใช้ในการสร้างสรรค์แอปใหม่ ๆ สำหรับอนาคต ลูกค้า 95% ในทำเนียบ Fortune 500 ต่างใช้ Azure ดังนั้นนวัตกรรมใหม่เหล่านี้จึงสามารถขยายผลได้อย่างกว้างขวาง”
ส่งเสริมความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม AI ทรงประสิทธิภาพ
ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยี Azure AI ชุดใหม่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยนักพัฒนาและนักวิทยาการข้อมูลในการนำ AI ไปประยุกต์ใช้งานกับโซลูชั่นต่าง ๆ
- Azure Cognitive Services ทำให้แอปพลิเคชั่นมีความสามารถในการมองเห็น ได้ยิน ตอบสนอง ทำความเข้าใจ หาคำตอบ และอีกมากมาย ไมโครซอฟท์เปิดตัวบริการใหม่ในหมวด Cognitive Services ที่มีชื่อว่า“Decision” เพื่อมอบคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริการในหมวดนี้ประกอบด้วย เครื่องมือคัดกรองเนื้อหา Content Moderator, เครื่องมือตรวจจับความผิดปกติ Anomaly Detector ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ และบริการใหม่ที่เรียกว่า Personalizer ซึ่งใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (reinforcement learning) เพื่อมอบคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
- ไมโครซอฟท์เตรียมนำ AI มาใช้กับ Azure Search โดยเพิ่มความสามารถในการสืบค้นแบบ cognitive search ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้อัลกอริทึม Cognitive Services เพื่อดึงข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ จากคอนเทนต์ทั้งในแบบที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง นอกจากนี้ยังมีการสาธิตความสามารถใหม่ที่จะเข้ามาช่วยนักพัฒนาในการเก็บข้อมูลเชิงลึกที่ AI ได้มาจากการค้นหาแบบ cognitive search เพื่อมอบประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยความรู้ โดยใช้ประโยชน์จาก Power BI visualizations หรือโมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่ง
นวัตกรรมใหม่ ๆ ใน Azure Machine Learning ช่วยให้กระบวนการสร้าง ฝึกอบรม และใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่งนั้นง่ายขึ้น:
- เพิ่มความสามารถด้าน MLOps ด้วย Azure DevOps เพื่อให้นักพัฒนาสามารถผลิตซ้ำ ตรวจสอบบัญชี และทำให้ระบบแมชชีนเลิร์นนิ่งเป็นอัตโนมัติตั้งแต่ต้นจนจบ
- ยกระดับ ML แบบอัตโนมัติ และ UI ที่ใช้งานง่าย ทำให้พัฒนาโมเดลคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น
- อินเทอร์เฟซแมชชีนเลิร์นนิ่งแบบภาพ ช่วยให้นักพัฒนาสร้างและใช้โมเดลได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ด้วยความสามารถในการลากและวาง
- เพื่อให้ได้ความหน่วงต่ำเป็นพิเศษและการวิเคราะห์ที่คุ้มค่า ไมโครซอฟท์จึงประกาศเปิดให้ใช้งานโมเดลการเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ที่ทำงานบน FPGA รวมถึงรองรับ ONNX Runtime สำหรับ NVIDIA TensorRTและ Intel nGraph เพื่อการวิเคราะห์ความเร็วสูงบนชิปเซ็ตของ NVIDIA และ Intel
ขยายโอกาสด้วย Intelligent Edge
บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่มากมาย ที่ช่วยตอบสนองต่อความต้องการที่มีอยู่เดิมและที่เกิดขึ้นใหม่ของไฮบริดคลาวด์และเอดจ์คอมพิวติ้ง:
- ไมโครซอฟท์ขอแนะนำ Azure SQL Database Edge เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายในด้านเอดจ์คอมพิวติ้ง ผลิตภัณฑ์นี้เป็น SQL engine ที่ได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองความสามารถในการประมวลผลที่น้อยกว่าด้วย AI ที่ติดตั้งมาในตัว รวมการสตรีมมิ่งข้อมูลเข้ากับสามารถของแมชชีนเลิร์นนิ่งและกราฟในฐานข้อมูล เพื่อเปิดใช้งานระบบอัจฉริยะบนเอดจ์ เนื่องจาก Azure SQL Database Edge ใช้ programming surface area เดียวกันกับ Azure SQL Database และ SQL Server นักพัฒนาจึงสามารถนำแอปพลิเคชั่นเข้าสู่เอดจ์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเรียนรู้เครื่องมือและภาษาใหม่ ทำให้การเขียนโปรแกรมมีความสอดคล้องต่อเนื่อง
- ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศเปิดตัว IoT Plug and Play ซึ่งเป็นภาษาใหม่สำหรับการสร้างโมเดลแบบเปิด เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT เข้ากับคลาวด์ได้อย่างราบรื่น ช่วยให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขปัญหาที่ท้าทายที่สุดข้อหนึ่ง นั่นคือการใช้โซลูชั่น IoT ในวงกว้าง ก่อนหน้านี้ นักพัฒนาต้องเขียนซอฟต์แวร์เฉพาะแต่ละอุปกรณ์ ทำให้จำกัดการใช้งาน IoT แต่ IoT Plug and Play จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจากพันธมิตร และสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
- ไมโครซอฟท์ช่วยให้การสร้างประสบการณ์ mixed reality สำหรับ HoloLens 2 ทำได้ง่ายขึ้นด้วย HoloLens 2 Development Edition โดยทำให้ชุมชนนักพัฒนา mixed reality สามารถเข้าถึงโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์การสร้างและนำเสนอประสบการณ์ mixed reality ในหลากหลายอุปกรณ์
- Unreal Engine 4 สนับสนุนการรวมเนทีฟแพลตฟอร์มและการสตรีมมิ่งสำหรับ HoloLens 2 ซึ่งจะเปิดให้บริการแก่นักพัฒนาภายในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อการสร้างสรรค์ photo-realistic renders คุณภาพสูง ตลอดจนสร้างสรรค์ประสบการณ์ mixed-reality แบบอิมเมอร์ซีฟ สำหรับโซลูชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต และอีกมากมาย
websthai เป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์ E-commerce เว็บไซต์อัตโนมัติด้วยมืออาชีพครบวงจร บริการครบจบในที่เดียว ทั้งการออกแบบ สร้างเว็บไซต์ โปรโมทเว็บไซต์ ให้คำแนะนำปรึกษา และดูแลเว็บไซต์ สอนความรู้ในธุรกิจออนไลน์ให้ บริการด้วยใจเพื่อความพอใจของลูกค้า ด้วยประสบการณืที่มากกว่า 15 ปี ติดต่อเราที่นี่
ที่มา innnews.co.th